ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
การออกแบบเว็บไซต์
ภาษา html
การจัดรูปแบบเอกสาร
การจัดรูปแบบตัวอักษร
การใส่รูปภาพลงในเว็บเพจ
การสร้างตาราง
การเชื่อมโยงเว็บเพจ
การใส่ไฟล์มัลติมีเดีย
แบบทดสอบหลังเรียน



2.  ประเภทของเว็บไซต์
     เว็บไซต์จะแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามการใช้งานดังนี้

     
2.1 เว็บท่า (Portal site)
           เว็บท่านั้นอาจเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่าเว็บวาไรตี้ (variety web) ซึ่งหมายถึงเว็บที่รวมบริการต่าง ๆ ไว้มากมาย
มักประกอบไปด้วยบริการเครื่องมือค้นหาที่รวบรวมลิงค์ของเว็บไซต์ที่น่าสนใจรวมถึงบรการที่เกี่ยวกับเรื่องราว
ที่มีสาระและบันเทิง หลากหลายประเภท เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ดุดวง ท่องเที่ยว IT เกม สุขภาพ หรืออื่นๆ
นอกจากนั้นแล้วเว็บท่ายังมีลักษณะเป็น แหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้คนในสังคม ในเรื่องเกี่ยวกับ
ประเด็นต่างๆ ซึ่งเรียกว่า เว็บชุมชน (community web)อีกด้วย

     
2.2 เว็บข่าว (News site)
           เว็บข่าวมักเป็นเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยองค์กรข่าวหรือสถาบันสื่อสารมวลชนต่างๆ ที่มีสื่อประเภทต่างๆ
ของตนเป็นอยู่หลัก เช่น สถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร วารสาร หรือแม้กระทั่งกระทรวง
ทบวง กรมต่างๆ แต่องค์กรเหล่านี้ได้นำ เว็บไซต์มาใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสาสรอีกรูปแบบหนึ่ง เพื่อนำเสนอข่าว
และสาระที่เป็นความสรุปใจความสำคัญหรือรวบรวม เนื้อหาจากข่าวในรอบเดือนหรือรอบปี ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ
ค้นหา ข้อมูลและติดตามข่าวสารได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม


     2.3 เว็บข้อมูล (Information site)
            เว็บข้อมูลนั้นเป็นเว็บที่ให้บริการเกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล ข่าวสาร หรือข้อเท็จจริงต่างๆ
เพื่อเป็นช่องทางให้ผู้คนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตนได้อีก
ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการประชาสัมพันธ์ และสร้างความเข้าใจอันดีให้เกิดแก่ผู้คนในสังคมอีกด้วย

     
2.4 เว็บธุรกิจหรือการตลาด (Business/ Marketing site)
            เว็บธุรกิจหรือการตลาดเป็นเว็บไซต์ที่มักสร้างขึ้นโดยองค์กรธุรกิจต่างๆ มีจุดมุ่งหมายหลัก
ในการประชาสัมพันธ์องค์กรและเพิ่มผลกำไรทางการค้า โดยเนื้อหาส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมด
มักจะเป็นการนำเสนอที่มีความน่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อผลกำไรทางธุรกิจนั่นเอง

     
2.5 เว็บการศึกษา (Education site)
           เว็บการศึกษามักเป็นเว็บที่สร้างขึ้นโดยสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์กรทั้งภาครัฐหรือเอกชน
ที่มีนโยบายในการเผยแพร่ความรู้และให้โอกาสในการค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อการศึกษาแก่ นักเรียน นิสิต
นักศึกษา รวมถึงประชาชนทั่งไป เว็บการศึกษาจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งแบบที่เป็นทางการและ
ไม่เป็นทางการ นอกจากนี้แล้วยังรวมถึงเว็บที่สอนหรือให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การทำเว็บ
การทำอาหาร การถ่ายภาพ การเขียนโปรแกรม เป็นต้น

     
2.6 เว็บบันเทิง (Entertainment site)
เว็บบันเทิงนั้นมุ่งเสนอและให้บริการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความบันเทิง โดยทั่วไปอาจนำเสนอเรื่องราว
เกี่ยวกับการบันเทิงทั่วไป เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ดารา กีฬา ความรัก บทกลอน การ์ตูน เรื่องขำขัน รวมถึง
การให้บริการดาวน์โหลดโลโก้และริงโทนสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่อีกด้วยเว็บประเภทนี้อาจเป็นรูปแบบ
ที่เป็นอินเตอร์แอคทีฟที่ตื่นตาตื่นใจ หรือใช้เทคโนโลยีมัลติมิเดียได้มากกว่าเว็บประเภทอื่น

     
2.7 เว็บองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร (None-profit organization site)
เว็บประเภทนี้มักจะเป็นเว็บที่จะสร้างขึ้นโดยกลุ่มบุคลหรือองค์กรต่างๆ ที่มีนโยบายในการสร้างสรรค์
ที่ช่วยเหลือสังคมโดยที่ไม่หวังผลกำไรหรือค่าตอบแทน ซึ่งกลุ่มบุคลหรือองค์กรเหล่านี้ได้แก่ สามคม ชมรม มูลนิธิ
และโครงการต่างๆ โดยอาจมีจุดประสงค์เฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น เพื่อทำความดี สร้างสรรค์สังคม พิทักษ์สิ่งแวดล้อม
ปกป้องสิทธิมนุษยชน รณรงค์ม่ให้สูบบุหรี่ หรืออาจรวมตัวกันเพื่อดูแลผลประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่ม

    
 2.8 เว็บส่วนตัว (Personal site)
เว็บส่วนตัวอาจเป็นเว็บของคน ๆ เดียว เพื่อนฝูง หรือครอบครัวก็ได้ โดยอาจจัดทำขึ้นด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน
เช่น แนะนำกลุ่มเพื่อน โชว์รูปภาพ แสดงความคิดเห็น เขียนไดอารี่ประจำวัน นำเสนอผลงาน ถ่ายทอดประสบการณ์
เกี่ยวกับสิ่งที่เชี่ยวชาญหรือสนใจ เป็นต้น